วันพฤหัสบดีที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

การเตรียมตัวก่อนจะเป็นว่าที่ คุณแม่


หลังจากที่แต่งงานมาแล้วคุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คู่ก็คงจะคิดถึงการมีลูกกันใช่ไหมค่ะ เราก็มี 4 เรื่อง การเตรียมตัวก่อนมีลูกมาฝากคุณพ่อคุณแม่กันด้วย ซึ่งการเตรียมตัวก่อนมีลูกถือเป็นสิ่งที่ดีต่อเจ้าตัวเล็ก ๆ มากจริง ๆ ค่ะ เพราะเราจะมั่นใจไปกว่าครึ่งแล้วว่าลูกน้อยของเราจะลืมตาออกมาดูโลกภายนอก ด้วยความแข็งแรงและสมบูรณ์ ฉะนั้นแล้วเรื่อง การเตรียมตัวก่อนมีลูก จึงมีส่วนสำคัญมิใช่น้อยค่ะ เรามาดูกันดีกว่าว่า 4 เรื่อง การเตรียมตัวก่อนมีลูกนี้มีอะไรกันบ้าง





4 เรื่องของการเตรียมตัวก่อนมีลูก



 1. พื้นฐานของเม็ดเลือด ดูว่าพ่อและแม่มีเลือดกรุ๊ปใด เข้ากันได้หรือไม่ เพราะบางคนพ่อแม่จะมีกรุ๊ปเลือดที่ไม่เข้ากันซึ่งจะมีผลต่อความเสี่ยงต่อ การเกิดโรค เช่น เด็กแรกเกิดที่มีภาวะตัวเหลืองจากโลหิตจางซึ่งเกิดจากกรุ๊ปเลือดของพ่อแม่ ไม่เข้ากับลูก

นอกจากนี้ยังมีเลือดกลุ่มพิเศษ RH ซึ่งพบได้น้อย แต่ว่ากรุ๊ปพิเศษนี้จะมีอันตรายที่ว่า ถ้าคุณแม่เป็น RH- คุณพ่อจะต้องไม่เป็น RH+ เพราะลูกที่เกิดมาอาจจะมีภาวะการแข็งตัวของเลือดผิดปกติจนอาจเสียชีวิตได้


2. ความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ดูว่าเป็นคุณพ่อคุณแม่มีเม็ดเลือดจางเป็นพาหะหรือเป็นทาลัสซีเมียหรือไม่


 3. ป่วยเป็นโรคติดเชื้อหรือไม่ ได้แก่ โรคเอดส์ โรคซิฟิลิส ไวรัสตับอักเสบบี ถ้าคุณแม่ยังไม่มีภูมิคุณหมอจะเริ่มฉีดให้ค่ะ โดยฉีด 3 เข็ม เข็มแรกจะฉีดทันที เข็มที่ 2 เว้นไป 1 เดือนและเข็มสุดท้ายเว้นไป 6 เดือน ระหว่างนี้คุณแม่สามารถตั้งท้องได้ค่ะ

หัดเยอรมัน ถ้าคุณแม่ยังไม่มีภูมิคุ้มกันก็ต้องฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 และเว้นระยะไป 3 เดือนจึงจะสามารถตั้งครรภ์ได้


 4. สุขภาพทั่วไป เช่น น้ำหนัก ส่วนสูง เช็กการได้ยินของหู สายตา จมูก ช่องปาก อวัยวะภายในช่องท้อง รวมถึงการตรวจภายในของทั้งผู้หญิงและผู้ชายด้วย (แม้จะเคยตรวจมาตอนก่อนแต่งงานคุณหมอมักจะเว้นการตรวจภายในสำหรับผู้หญิง ดังนั้นตรวจใหม่อีกรอบก็ดี)







ความพร้อมทางด้านสุขภาพ


สุขภาพของคุณพ่อและคุณแม่มีผลต่อสุขภาพทารก ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ที่วางแผนตั้งครรภ์ต้องรักษาสุขภาพให้ดี เพราะอวัยวะของเด็กเริ่มก่อตัวตั้งปฏิสนธิจนถึง4สัปดาห์  วิธีการเพื่อให้สุขภาพดีมีดังนี้

  1. ให้รับประทานกรดโฟลิกวันละ 400 มิลิกรัมทุกวันก่อนการตั้งครรภ ์และให้รับประทานต่อในช่วงต้นของการรับประทานเนื่องจากช่วงนี้สมอง และประสาทไขสันหลังเด็กมีการเจริญเติบโตอย่างมาก นอกจากนั้นจะต้องรับประทานอาหารสุขภาพ อาหารที่อุดมไปด้วยกรดโฟลิกซึ่งได้แก่ ผักใบเขียว
  2. ตรวจร่างกายก่อนการตั้งครรภ์ แพทย์จะตรวจสุขภาพของท่านให้แข็งแรง อธิบายผลของการตั้งครรภ์ต่อสุขภาพ ตรวจว่ายาที่ท่านรับประทานจะมีผลต่อการตั้งครรภ์หรือไม่ ตรวจว่าฉีดวัคซีนครบหรือไม่ ตรวจว่าท่านมีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือไม่
  3. รับประทานอาหารสุขภาพ รักษาน้ำหนักให้เหมาะสม และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงน้ำตาล อาหารมัน กาแฟ หากท่าน้ำหนักเกินจะทำให้การตั้งครรภ์ลำบาก สำหรับคนผอมจะตั้งครรภ์ง่ายกว่า ท่านสามารถตรวจสอบว่าอ้วนหรือไม่ สำหรับท่านที่ออกกำลังอยู่แล้วก็สามารถออกกำลังต่อแต่ท่านอาจจะต้องปรึกษาแพทย์ถึงวิธีการออกกำลังกายอย่างปลอดภัย
  4. หยุดการสูบบุหรี่ และหลีกเลี่ยงสถานที่มีการสูบบุหรี่ เนื่องจากบุหรี่จะทำให้ท่านตั้งครรภ์ยากและส่งผลเสียต่อทารกจากการวิจัยพบ ว่าบุหรี่ทำให้ทารกเจริญเติบโตช้า ท่านควรจะหยุดบุหรี่ก่อนการตั้งครรภ์
  5. หยุดดื่มสุรา เบียร์ เหล้าเพราะการดื่มสุราจะทำให้แท้ง และมีผลต่อการพัฒนาของเด็ก
  6. หยุดยาเสพติดเพราะยาเสพติดอาจจะทำให้แท้ง คลอดก่อนกำหนด มีผลต่อการพัฒนาของเด็ก
  7. หลีกเลี่ยงการติดเชื้อ การติดเชื้อบางชนิดอาจจะส่งผลต่อเด็กในท้อง ให้ล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่สุก เนื้อสัตว์หรือไข่ต้องทำให้สุก ผักและผลไม้ต้องล้างให้สะอาด หลีกเลี่ยงสัตว์เลี้ยงพวกหนู หลีกเลี่ยงพวกแมวและอุจาระเพราะในอุจาระจะมีเชื้อ toxoplasmosis ซึ่งมีผลต่อเด็กในครรภ์ หลีกเลี่ยงเด็กที่เป็นหวัด ระวังโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
  8. หลีกเลี่ยงสารเคมีที่อาจจะอันตรายต่อเด็กในครรภ์ เช่นยาฆ่าแมลง สารเคมี
  9. เรียนรู้เกี่ยวกับโรคทางพันธุกรรมเช่น หลีกเลี่ยงจากความเครียด





การวางแผนทางการเงิน

การมีลูกสักคนต้องมีรายจ่ายค่อนข้างมาก ดังนั้นก่อนที่จะมีบุตรคู่สามีและภรรยาต้องมานั่งวางแผนทางการเงินให้เรียบ ร้อยก่อน ปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงมีอะไรบ้าง

     การมีบุตรสักคนจะมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง

  • การมีบุตรจะมีผลต่อรายได้อย่างไรบ้าง
  • การมีบุตรจะมีผลต่อรายจ่ายอย่างไรบ้าง
  • ตรวจสอบนโยบายบริษัทเกี่ยวกับการหยุดงานช่วงการคลอด
  • ตรวจสอบกรมธรรม์ประกันชีวิตว่าครอบคลุมการใช้จ่ายเกี่ยวกับการคลอดแค่ไหน และครอบคลุมถึงเด็กด้วยหรือไม่
  • เริ่มต้นนิสัยการประหยัดได้แล้ว 
  • หากยังไม่ประกันชีวิต ให้ทำเพื่อคุ้มครองชีวิตและความพิการ
เมื่อคุณมีลูกน้อยสิ่งที่โตพร้อมลูกน้อยก็คืองบการเงินซึ่งจะต้องมีค่าใช้จ่ายที่สามารถทราบล่วงหน้า และค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถคาดเดาได้ดงนั้นจึงต้องจัดทำบัญชีเพื่อการวางแผน

      จัดทำบัญชีรายรับรายจ่าย

  • ให้คุณจัดทำรายจ่ายทั้งหมด ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าผ่อนบ้าน ค่าประกันชีวิต ค่าอาหาร ค่าเครื่องแต่งตัว ค่าน้ำมัน อื่นอีกมากมาย แล้วไปเปรียบเทียบกับรายรับในแต่ละเดือน ว่าเหลือเงินเท่าใด ส่วนที่เหลือนี้พอเหลือเก็บหรือไม่ พอที่จะสะสมให้ลูกหรือไม่ เมื่อทราบรายรับรายจ่ายแล้วคุณก็คงจะมีแนวทางที่จะตัดรายจ่ายอะไรบ้าง และมีหนทางที่จะเพิ่มรายได้อย่างไร ปริมาณเท่าใด แต่อย่าลืมสะสมส่วนหนึ่งไว้สำหรับเรื่องที่ไม่คาดฝัน และสะสมเพื่อการศึกษาของลูก
  • จัดซื้อของใช้สำหรับเด็ก จัดงบสำหรับซื้อของใช้ของจำเป็นสำหรับเด็ก หากคุณมีงบจำกัดต้องจัดอันดับความสำคัญก่อน และให้ตรวจดูว่ามีพี่น้องหรือคนรู้จักได้ตั้งครรภ์ก่อนหน้านี้หรือไม่ หากมีก็สามารถหยิบยืมมาใช้ เพราะเด็กโตเร็ว
  • ให้ตรวจสอบประกันชีวิตให้ตรวจสอบประกันชีวิตว่าครอบคลุมอะไรบ้าง หากประกันชีวิตไม่ครอบคลุมควรจะซื้อเพิ่ม
  • ครอบคลุมการฝากครรภ์หรือไม่
  • ครอบคลุมการคลอดหรือไม่
  • ครอบคลุมค่าใช้จ่ายสำหรับเด็กหรือไม่ 
  • มีการชดเชยรายได้ระหว่างคลอดลูกหรือไม่






การวางแผนการตั้งครรภ์

สำหรับว่าที่คุณพ่อก็ต้องดูแลสุขภาพให้แข็งแรง งดสุรา บุหรี่ สารเสพติดทั้งหลาย หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และควรจะงดรวมเพศก่อนวันไข่ตกสักสามสี่วันเพื่อให้มีปริมาณเชื้อมากพอ
สำหรับ ว่าที่คุณแม่ก็ต้องตรวจสุขภาพก่อนที่จะตั้งครรภ์ ทำตารางประจำเดือนเพื่อที่จะให้ทราบว่าประจำเดือนเดือนสุดท้ายมาวันที่เท่าไรเพื่อที่จะคำนวณว่าครบกำหนดคลอดเมื่อ ไร หากนับจากวันที่มีประจำเดือนครั้งสุดท้ายครบกำหนดคลอดก็ประมาณ 40 สัปดาห์ หากนับจากวันปฏิสนธิก็จะครบกำหนดคลอดประมาณ 38 สัปดาห์ แต่เนื่องจากเราไม่ทราบว่าปฏิสนธิเมื่อไรเราจึงใช้วันที่ประจำเดือนสุดท้าย ประวัตินี้สำคัญเพราะแพทย์จะได้รู้อายุครรภ์ที่ถูกต้อง
  

จะมีเพศสัมพันธ์วันไหนถึงจะมีโอกาสตั้งครรภ์สูง

หากประจำเดือนมาสม่ำเสมอ 28 วันวันที่ไข่สุกประมาณวันที่ 14 ของรอบเดือน หรือประจำเดือนไม่แน่ก็อาจจะใช้อาการที่ไข่สุก หรืออาจจะใช้วัดไข้ทุกเช้าก็ได้ ที่สำคัญคือหากทราบวันไข่ตกก็ให้มีเพศสัมพันธ์ประมาณ1-2วันก่อนไข่ตก




ท่าของการมีเพศสัมพันธ์จะมีผลต่อการตั้งครรภ์หรือไม่

จากข้อมูลยังไม่มีการชี้ชัดว่าท่าร่วมเพศจะมีผลต่อ การตั้งครรภ์หรือไม่ แต่คงจะไม่ต้องพิศดารมากมาย เพียงท่าปกติผู้ชายอยู่บน และให้นอนพัก 15 นาทีหลังมีเพศสัมพันธ์ สำหรับผู้ชายที่มีอวัยวะสั้นก็ไม่ต้องกังวลเพราะก็สามารถตั้งครรภ์ได้ เหมือนคนทั่วไป





ผู้หญิงวัยเจริญพันธ์เมื่อประมาณวันที่ 14 ของรอบเดือน(รอบละ 28 วัน)ไข่ในท่อรังไข่จะเจริญเติบโตเต็มที่พร้อมที่จะได้รับการปฏิสนธิ รังไข่จะสร้างฮอรฺโมน Estroge Progesterone ทำให้มดลูกมีเยื่อบุที่พร้อมจะได้รับการฝังตัวของทารก ไข่ที่ตกจะพร้อมที่จะมีการปฏิสนธิใน 12-24 ชั่วโมงเมื่อเชื้อของผู้ชายหรือตัว sperm ถูกปล่อยเข้าในช่องคลอดเป็น 250 ล้านตัว ตัวที่แข็งแรงและว่ายได้เร็วจะผ่านไปยังปากมดลูก เข้าสู่มดลูก และไปเกิดปฏิสนธิที่ท่อรังไข่ ณ.ที่แห่งนี้การกำเนิดตัวอ่อนได้เริ่มขึ้น ตัวอ่อนที่แบ่งตัวจะเคลื่อนมาฝังตัวที่เยื่อบุมดลูก และเจริญเป็นทารก
ตัวอ่อนจะเคลื่อนตัวไปยังท่อรังไข่กลายเป็นตัวอ่อนที่เรียกว่า blastocyst ซึ่งประกอบไปด้วยกลุ่มเซลล์สองกลุ่ม คือกลุ่มด้านใน inner cell mass ซึ่งจะกลายเป็นตัวอ่อน ส่วนเซลล์กลุ่มด้านนอกจะกลายเป็น ถุงน้ำคล่ำ และรก เมื่อเซลล์เคลื่อนมาถึงมดลูกซึ่งใช้เวลา 3-4 วันในการเดินทาง เซลล์ตัวอ่อนจะออกมาและเกาะที่รกกลายเป็นตัวอ่อน ประมาณสัปดาห์ที่5 เซลล์กลุ่มด้านในจะกลายเป็นทารก จะเริ่มพัฒนาสมอง ประสาทไขสันหลัง ระบบไหลเวียนโลหิตเริ่มพัฒนา หัวใจเด็กจะเริ่มเต้น จะมีหลอดเลือดแดงและดำเพื่อติดต่อกับแม่ ประมาณสัปดาห์ที่เก้า เริ่มมีนิ้วเท้า จมูก หู













          เมื่อเชื้อผสมกับไข่







                                                
                                                                                          

                                           ตัวอ่อนระยะเวลา 1 วัน
 











ตัวอ่อนระยะเวลา17-20วัน
 






 



                                                                     
                                                                                            







                                                                                       ตัวอ่อนระยะ28-32 วัน
 

















    

ตัวอ่อนระยะเวลา37-42 วัน




วิดีโอระยะการเจริญเติบโตของเด็กในครรภ์มารดา







 ที่มา / แหล่งอ้างอิง :




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น