วันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ปัญหาที่คุณแม่กลัว ระหว่างการคลอด


การเจ็บท้องคลอดและการคลอด

 เป็นเรื่องธรรมดาที่คุณแม่ตั้งครรภ์มักรู้สึกกลัวการเจ็บท้องคลอดค่ะ
แต่คุณแม่ทราบไหมว่า ความรู้สึกเดียวที่คุณจะสัมผัสได้ทันทีที่คลอดและ
ได้เห็นลูกน้อยครั้งแรก ก็คือความปลาบปลื้มและความรักที่มากจนทำให้คุณลืม
ความเจ็บไปได้ทันที เรามีคำแนะนำต่างๆ มากมายนับตั้งแต่การวางแผน
การคลอด ไปจนถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในขณะคลอดและหลังคลอด

ความกังวลต่างๆเกี่ยวกับการคลอด

เป็นเรื่องปกติที่คุณแม่ตั้งครรภ์จะรู้สึกกังวลใจอย่างมากเกี่ยวกับการคลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับท้องแรก อย่างไรก็ตาม ถึงแม้คุณแม่จะรู้สึกเจ็บปวดในขณะคลอด แต่ธรรมชาติก็ได้ออกแบบร่างกายและระบบทุกอย่างเป็นอย่างดี นั่นก็คือ เมื่อถึงจุดๆ หนึ่งของความเจ็บปวด ร่างกายของแม่จะหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินออกมา เพื่อช่วยให้คุณแม่สามารถต่อสู้กับความเจ็บปวดได้เป็นอย่างดี


 วิธีสร้างความมั่นใจ

  เมื่ถึงเวลานี้ คุณแม่อาจจะมีคำถามนับล้านข้อเกี่ยวกับระยะต่างๆ ของการคลอด และสิ่งที่จะเกิดขึ้นในขณะคลอด แน่นอนว่าสิ่งที่เราไม่รู้ มักทำให้รู้สึกเครียดและกังวลใจ แต่จริงๆ แล้ว คุณอาจจะรู้มากกว่าที่คุณกังวลก็ได้
 ลองทบทวนแผนการคลอด  อีกครั้ง เพราะสิ่งที่จะช่วยทำให้คุณแม่เกิดความมั่นใจได้ดีที่สุดก็คือการเตรียมตัวให้พร้อม  อีกทั้งบทความเรื่องระยะการคลอดสามระยะ  ที่เรานำเสนอนี้อาจเป็นประโยชน์สำหรับคุณแม่ด้วยเช่นกัน และที่สำคัญ คุณแม่ไม่ควรเก็บความรู้สึกวิตกกังวลใจไว้เพียงคนเดียว ควรปรึกษาพูดคุยกับสามีหรือสูติแพทย์เกี่ยวกับความรู้สึกวิตกกังวลที่มีอยู่ในใจได้ค่ะ


 

ทางเลือกในการบรรเทาความเจ็บปวด


การดมยา

ก๊าซชนิดนี้เรียกอีกอย่างว่าเอนโทนอกซ์ ( Entonox) เป็นก๊าซที่ประกอบด้วยออกซิเจนและไนตรัสออกไซด์ในอัตราร้อยละ 50-50 ใช้สำหรับสูดดมผ่านท่อหายใจทางปาก เป็นก๊าซที่ไร้สี ไร้กลิ่น และลดอาการปวดจากการหดรัดตัวของมดลูก คุณแม่สามารถใช้ก๊าซชนิดนี้สำหรับบรรเทาความเจ็บปวดเมื่อคลอดที่บ้านหรือคลอดในน้ำ และยัง สามารถควบคุมการใช้งานได้ด้วยตัวเองและใช้ได้ในทุกระยะระหว่างการคลอด นอกจากนี้ยังสามารถใช้ร่วมกับทางเลือกในการบรรเทาความเจ็บปวดอื่น ๆ ได้ง่าย อีกทั้ง ก๊าซชนิดนี้จะอยู่ในร่างกายได้ไม่นานและไม่เป็นอันตรายต่อลูกน้อยของคุณ

ทั้งนี้ หากคุณแม่ใช้การดมยาเป็นเวลานาน จะ ทำให้รู้สึกเหนื่อยมาก ดังนั้น อาจต้องใช้ร่วมกับทางเลือกในการบรรเทาความเจ็บปวดอื่นๆด้วย

วิธีนี้จะให้คุณเริ่มสูดดมยาได้ทันทีที่คุณรู้สึกว่าเริ่มมีการหดรัดตัวของมดลูก ถ้ารอจนกระทั่งมีการหดรัดตัวของมดลูก แล้วค่อยเริ่ม จะทำให้รู้สึกเจ็บมาก และ ไม่ได้ประโยชน์แต่อย่างใด การดมยาอาจทำให้มีอาการปากแห้งหรือรู้สึกเจ็บคอได้
 


ยาเพธิดีน

ยาแก้ปวดชนิดนี้เป็นยาที่ได้จากการสังเคราะห์มอร์ฟีนซึ่งมีประโยชน์หลายอย่างดังนี้
ใช้เวลาในการออกฤทธิ์ประมาณ 20 นาที
สามารถให้ยาเพธิดีนด้วยวิธีฉีดหรือให้ยาผ่านสายน้ำเกลือ

แพทย์มักให้เพธิดีนร่วมกับยาอื่นเพื่อระงับความปวดที่อาจเกิดขึ้น และสามารถให้ยาได้เฉพาะในระยะแรกของการเจ็บครรภ์หรือก่อนที่ปากมดลูกจะเปิดเต็มที่
เพธิดีนสามารถชะลอการเจ็บครรภ์ได้ แต่ถ้าให้ยานี้ก่อนคลอด จะมีผลต่อการหายใจและการกินอาหารของลูกน้อย และทำให้ลูกง่วงซึม หากจำเป็น แพทย์อาจฉีดยาให้แก่ลูกของคุณเพื่อคลายฤทธิ์ของยาชนิดนี้ ดังนั้นคุณแม่จึงไม่ต้องกังวลเรื่องผลของฤทธิ์ยา

เมพทิด

คุณแม่สามารถใช้ยานี้ได้เมื่อต้องการลดความเจ็บปวดจากการหดรัดตัวอย่างรุนแรงของมดลูก และยามักเริ่มออกฤทธิ์ในเวลาเพียง 15 นาที คุณแม่สามารถรับยานี้เมื่อไหร่ก็ได้ระหว่างระยะแรกของการเจ็บครรภ์ เมพทิดมีประโยชน์เช่นเดียวกับเพธิดีน แต่ไม่มีผลต่อการหายใจของลูกน้อยมาก เท่ากับเพธิดีน อย่างไรก็ตาม ยาชนิดนี้ อาจทำให้คุณรู้สึกวิงเวียนและ / หรือ คลื่นไส้อาเจียนได้   เนื่องจากเมพทิดไม่ได้เป็นยาทั่วไป จึงต้องตรวจสอบกับสูติแพทย์ก่อนว่าโรงพยาบาลที่คุณคลอดลูกมียาชนิดนี้หรือไม่

การฉีดยาเข้าช่องเหนือช่องน้ำไขสันหลัง

การฉีดยาเข้าช่องเหนือช่องน้ำไขสันหลังสามารถช่วยให้ผู้หญิงร้อยละ 90 ไม่รู้สึกเจ็บปวดจากการหดรัดตัวของมดลูก และเนื่องจากการระงับปวดวิธีนี้ไม่ทำให้วิงเวียนศีรษะหรือมึน งง คุณแม่จึงสามารถลุก นั่ง ยืน เดินได้ตามปกติหลังการคลอดลูก การฉีดยาเข้าช่องเหนือช่องน้ำไขสันหลังนี้เป็นการให้ยาระงับความรู้สึกเฉพาะที่ ( เช่นเดียวกับที่ทันตแพทย์ใช้ ) แพทย์จะฉีดยาชาเข้าช่องเหนือช่องน้ำไขสันหลัง หรือให้ยาผ่านสายน้ำเกลือ โดยที่คุณแม่สามารถเลือกหรือควบคุมเวลาได้

การฉีดยาเข้าช่องเหนือช่องน้ำไขสันหลังสามารถช่วยให้คุณแม่คลอดลูกได้อย่างราบรื่น จึงไม่ต้องกังวลเรื่องผลข้างเคียง ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ผู้หญิงส่วนใหญ่สามารถใช้ทางเลือกในการบรรเทาความเจ็บปวดชนิดนี้ได้ อย่างปลอดภัย ซึ่งน่าจะใช้ได้อย่างปลอดภัยสำหรับคุณด้วยเช่นกัน ถ้าต้องการใช้ทางเลือกในการบรรเทา ความเจ็บปวดวิธีนี้ ให้ตรวจสอบกับโรงพยาบาลว่ามีวิสัญญีแพทย์หรือไม่ 
 

จะได้รับการฉีดยาเข้าช่องเหนือช่องน้ำไขสันหลังเมื่อใด

ผู้หญิงส่วนใหญ่จะได้รับการฉีดยาเข้าช่องเหนือช่องน้ำไขสันหลังเมื่อปากมดลูกเปิดประมาณ 5-6 เซนติเมตรและมดลูกหดรัดตัว มาก ถ้าปากมดลูกเปิดมากกว่านี้ อาจสายเกินไปที่จะฉีดยาเข้าช่องเหนือช่องน้ำไขสันหลัง และสูติแพทย์อาจแนะนำให้คุณแม่ใช้ทางเลือกในการบรรเทาความเจ็บปวดวิธีอื่น
 

ผลข้างเคียงของการฉีดยาเข้าช่องเหนือช่องน้ำไขสันหลัง

การฉีดยาเข้าช่องเหนือช่องน้ำไขสันหลังอาจทำให้การเจ็บครรภ์นานขึ้น โดยเฉพาะในระยะเบ่งคลอด ถ้าฤทธิ์ของการฉีดยาเข้าช่องเหนือช่องน้ำไขสันหลังยังมีอยู่ สูติแพทย์อาจจะต้องบอกให้คุณแม่เบ่งคลอดในช่วงระยะที่สองของการเจ็บครรภ์ ดังนั้น คุณแม่จึงควรปรึกษากับสูติแพทย์ว่าต้องการให้ฤทธิ์ของการฉีดยาเข้าช่องเหนือช่องน้ำไขสันหลังหมดฤทธิ์เมื่อเข้าสู่ระยะที่สองของการเจ็บครรภ์หรือไม่ เพื่อที่คุณแม่จะได้รู้สึกถึงการหดรัดตัวของมดลูกและเบ่งคลอดได้ดีขึ้น

ผลข้างเคียงอีกอย่างหนึ่งคือ บางครั้งอาจขัดขวางการเคลื่อนตัวของลูกน้อยให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการคลอด แต่แพทย์อาจใช้เครื่องมือช่วยคลอดสำหรับกรณีนี้ได้

การฉีดยาเข้าช่องเหนือช่องน้ำไขสันหลังทำให้เคลื่อนไหวได้ลำบากและคุณแม่อาจรู้สึกหนาวสั่น นอกจากนี้ ความดันโลหิตอาจลดลง ดังนั้น คุณแม่จะได้รับน้ำเกลือเพื่อแก้ไขภาวะความดันโลหิตต่ำ แพทย์อาจใส่สายสวนปัสสาวะซึ่งเป็นท่อเล็กๆ คาไว้ในกระเพาะปัสสาวะ เพราะโดยปกติแล้วหลังจากคลอดลูก คุณแม่จะมีปัญหาในการลุกจากเตียงไปเข้าห้องน้ำ เมื่อผลของฤทธิ์ยาหมดแล้ว แพทย์จะถอดสายสวนปัสสาวะออก ผลข้างเคียงจากการฉีดยาเข้าช่องเหนือช่องน้ำไขสันหลังที่พบได้น้อยมากคือ อาการปวดศีรษะ มาก แต่สามารถรักษาให้หายได้โดยง่าย

การฉีดยาเข้าช่องเหนือช่องน้ำไขสันหลังแบบเคลื่อนไหวได้
วิธีนี้เป็นวิธีที่ค่อนข้างใหม่และสามารถลดอาการเจ็บปวดในระหว่างการคลอดลูกได้เป็นอย่างดี ต่างกับการฉีดยาเข้าช่องเหนือช่องน้ำไขสันหลังทั่วไป ตรงที่คุณแม่จะยังคงมีความรู้สึกที่ส่วนขา ซึ่งช่วยลดความจำเป็นในการใช้เครื่องมือช่วยคลอด ลงได้เนื่องจาก คุณแม่สามารถเบ่งคลอดได้ดีขึ้น

การฉีดยาเข้าช่องเหนือช่องน้ำไขสันหลังแบบเคลื่อนไหวได้สามารถทำได้เช่นเดียวกับการฉีดยาเข้าช่องเหนือช่องน้ำไขสันหลังแบบเดิม คุณแม่อาจได้รับการฉีดยาก่อนเข้าสู่ระยะแรกของการเจ็บครรภ์ ซึ่งโดยทั่วไปเป็นยาที่เป็นส่วนผสมของยาระงับความรู้สึกและยาลดอาการปวดหลายชนิด และ ต่างกับการฉีดยาเข้าช่องเหนือช่องน้ำไขสันหลังแบบเดิมตรงที่มีผลข้างเคียงเพียงอย่างเดียวคือ อาจทำให้เกิดอาการคันบ้างเล็กน้อย



 เทคนิคการฉีดยาเข้าช่องน้ำไขสันหลังร่วมกับการฉีดยาเข้าช่องเหนือช่องน้ำไขสันหลัง (CSE)

หากคุณต้องการระงับอาการปวดอย่างรวดเร็ว แต่ยังต้องการเคลื่อนไหวได้อยู่ วิธีนี้สามารถช่วยคุณได้ การระงับปวดด้วยวิธี CSE จะใช้ในระยะแรกของการเจ็บครรภ์ โดยแพทย์จะฉีดยาแก้ปวดเข้าช่องน้ำไขสันหลังพร้อมกับฉีดยาเข้าช่องเหนือช่องน้ำไขสันหลัง เมื่อฤทธิ์ของยาที่ฉีดเข้าช่องน้ำไขสันหลังหมดฤทธิ์ แพทย์จะฉีดยาชาเข้าช่องเหนือช่องน้ำไขสันหลังเพื่อให้คุณแม่ปราศจากความเจ็บปวด เทคนิค CSE มีผลข้างเคียงเช่นเดียวกับการฉีดยาเข้าช่องเหนือช่องน้ำไขสันหลังแบบเดิม แต่สามารถลดอาการเจ็บปวดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การฉีดยาเข้าช่องน้ำไขสันหลัง ( การระงับความรู้สึกเฉพาะที่ )

วิธีนี้เหมาะที่สุดสำหรับคุณแม่ที่ไม่ต้องการรู้สึกถึงการหดรัดตัวของมดลูกหรือความเจ็บปวดในระยะที่สองของการเจ็บครรภ์ โดยเฉพาะถ้าจะต้องมีการใช้เครื่องมือช่วยคลอด ในบางครั้งแพทย์จะ ฉีดยาเข้าช่องน้ำไขสันหลังในระยะแรกของการเจ็บครรภ์ร่วมกับการฉีดยาเข้าช่องเหนือช่องน้ำไขสันหลัง

เมื่อคุณแม่เลือกใช้วิธีการฉีดยา เข้าช่องน้ำไขสันหลัง แพทย์จะใช้เข็มขนาดเล็กมากฉีดยาชาเข้าไปในช่องน้ำไขสันหลัง อาการปวดจะหมดไปโดยทันทีเป็นเวลา 2 ชั่วโมง แต่ไม่สามารถให้ยาซ้ำอีกได้ จึงเป็นเหตุให้แพทย์มักใช้วิธีฉีดยาเข้าช่องน้ำไขสันหลังร่วมกับการฉีดยาเข้าช่องเหนือช่องน้ำไขสันหลัง ( ซึ่งมีผลข้างเคียงคล้ายกัน ) เพื่อให้แน่ใจว่าคุณแม่จะคลอดลูกโดยไม่เจ็บปวด



 ที่มา / แหล่งอ้างอิง


http://www.dumex.co.th/pregnancy/labour_and_birth/articl/what_are_my_birthing_options
http://www.dumex.co.th/pregnancy/labour_and_birth/article/im_so_nervous_about_the_birth

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น